บันทึกการเรียนครั้งที่ 3
วันพุธที่ 30 สิงหาคม 2560
วิชา การให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
(Parent Education For Early Childhood)
อาจารย์ผู้สอน ว่าที่ ร.ต.กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
เนื้อหาความรู้ / กิจกรรม
🌸 คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา 🌸
One-Way Communication การสื่อสารทางเดียว
Two-way Communication การสื่อสารสองทาง
Verbal Communication การสื่อสารเชิงวัจนะ
Non-Verbal Communication การสื่อสารเชิงอวัจนะ
Intrapersonal Communication การสื่อสารส่วนบุคคล
Interpersonal Communication การสื่อสารระหว่างบุคคล
Mass Communication การสื่อสารมวลชน
Credibility ความน่าเชื่อถือ
Content เนื้อหาสาระ
Clearly ความชัดเจน
Context ความเหมาะสมกับโอกาส
Channel ช่องทางการส่งสาร
🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄
Two-way Communication การสื่อสารสองทาง
Verbal Communication การสื่อสารเชิงวัจนะ
Non-Verbal Communication การสื่อสารเชิงอวัจนะ
Intrapersonal Communication การสื่อสารส่วนบุคคล
Interpersonal Communication การสื่อสารระหว่างบุคคล
Mass Communication การสื่อสารมวลชน
Credibility ความน่าเชื่อถือ
Content เนื้อหาสาระ
Clearly ความชัดเจน
Context ความเหมาะสมกับโอกาส
Channel ช่องทางการส่งสาร
Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน
Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄 🌄
การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
ความหมายของการสื่อสาร
การสื่อสาร (Communication)
คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จาก ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
ความสำคัญของการสื่อสาร
- ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
- ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
- ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
- ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
- ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
รูปแบบของการสื่อสาร
องค์ประกอบของการสื่อสาร
2. ข้อมูลข่าวสาร (Message)
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
5. ความเข้าใจและการตอบสนอง
ผู้ส่งสารและผู้รับสาร
สื่อ
วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
1. เพื่อแจ้งให้ทราบ หมายถึง การสื่อสารที่ผู้ส่งสารจะแจ้ง บอกความต้องการของตนให้ผู้รับได้ทราบ
2. เพื่อสอนหรือให้การศึกษา หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งจะให้ผู้รับมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางด้านองค์ความรู้ ความคิด สติปัญญา
3. เพื่อสร้างความพอใจหรือให้ความบันเทิง หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งให้เกิดผลทางจิตใจหรืออารมณ์ ความรู้สึกแก่ผู้รับสาร
4. เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ มุ่งเน้นให้ผู้รับสารมีพฤติกรรมคล้อยตาม หรือยอมรับปฏิบัติตาม
ประเภทของการสื่อสาร
ได้มีจำแนกประเภทของการสื่อสารไว้แตกต่างกันหลายลักษณะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการจำแนก ในที่นี้จะแสดงการจำแนกประเภทของการสื่อสาร โดยอาศัยเกณฑ์ในการจำแนกที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.1 การสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication) คือการสื่อสารที่ข่าวสารจะถูกส่งจากผู้ส่งไปยังผู้รับในทิศทางเดียว โดยไม่มีการตอบโต้กลับจากฝ่ายผู้รับ เช่น การสื่อสารผ่านสื่อ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์
1.2 การสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) คือการสื่อสารที่มีการส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้สื่อสาร ดังนั้นผู้สื่อสารแต่ละฝ่ายจึงเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับในขณะเดียวกัน ผู้สื่อสารมีโอกาสทราบปฏิกิริยาตอบสนองระหว่างกัน เช่น การพบปะพูดคุยกัน การพูดโทรศัพท์
2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก
2.1 การสื่อสารเชิงวัจนะ (Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารด้วยการใช้ภาษาพูด หรือเขียนเป็นคำพูด ในการสื่อสาร
2.2 การสื่อสารเชิงอวัจนะ (Non-Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารโดยใช้รหัสสัญญาณอย่างอื่น เช่น ภาษาท่าทาง การแสดงออกทางใบหน้า สายตา ตลอดจนถึงน้ำเสียง ระดับเสียง ความเร็วในการพูด เป็นต้น
3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร
กิจกรรม ต่างๆ ของบุคคลและสังคม ถือว่าเป็นผลมาจากการสื่อสารทั้งสิ้น ดังนั้นการสื่อสารจึงมีขอบข่ายครอบคลุมลักษณะการสื่อสารของมนุษย์ 3 ลักษณะคือ
3.1 การสื่อสารส่วนบุคคล (Intrapersonal Communication)
3.2 การสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication)
3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)
การสื่อสารกับตนเอง
- การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
- การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
- เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกั
การสื่อสารระหว่างบุคคล
คือ การสื่อสารโดยบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม โดยเป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคล อาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น หรืออาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น สารที่สื่ออาจเปิดเผยหากมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่น
การสื่อสารสาธารณะ
ก็มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์ ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา เช่น การบรรยาย การปาฐกถา การอมรม การสอนในชั้นเรียน
การสื่อสารมวลชน
- ลักษณะสำคัญคล้ายการสื่อสารสาธารณะ
- ต้องอาศัยสื่อที่มีอำนาจการกระจายสูง รวดเร็ว กว้างขวาง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดาวเทียมและสื่อมวลชน
- ต้องคัดเลือกเฉพาะข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นที่เห็นว่าควรนำเสนอ
การสื่อสารในครอบครัว
เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับความตั้งใจดีของสมาชิกในครอบครัว และครอบครัวต้องยอมรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่แตกต่างกัน คนต่างรุ่นต่างวัยในครอบครัวต้องพยายามทำความเข้าใจให้ตรงกัน
การสื่อสารในโรงเรียน
ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารกับบุคคลที่คุ้นเคย เนื้อหามักเกี่ยวกับวิชาการ พื้นฐานอาชีพและหลักการดำเนินชีวิต มีทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคล ข้อเท็จจริงและข้อสรุปบางเรื่องไม่ควรนำไปเผยแพร่ และที่สำคัญคือ ควรระมัดระวังคำพูดและกิริยามารยาท
การสื่อสารในวงสังคมทั่วไป
คือการเริ่มด้วยการทักทายตามสภาพของสังคมนั้นๆ การติดต่อกับคนที่ไม่รู้จักมาก่อนควรพูดให้ตรงประเด็นและสุภาพพอควร การคบหากับชาวต่างประเทศ ควรศึกษาประเพณีและมารยาทที่สำคัญๆของกันและกัน
ธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
ออเออร์บาค (Auerbach,1968) ได้กล่าวถึงธรรมชาติของผู้ปกครองไว้ดังนี้
1. ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้
2. ผู้ปกครองมีความต้องการที่จะเรียนรู้
3. ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุดในสิ่งที่เขาสนใจ
4. การเรียนรู้จะมีความหมายที่สุดก็ต่อเมื่อเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวของผู้ปกครอง
5. การมีอิสระในการเรียนรู้จะทำให้ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุด
ธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
2. เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
3. มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
4. เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
5. เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร
- ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี เช่นใช้ภาษาที่อยากแก่การเข้าใจ หรือไม่เหมาะแก่ผู้รับ
- ข้อมูลข่าวสารมากเกินไป
- ได้ข่าวสารไม่ครบสมบูรณ์ ทำให้สื่อความหมายผิดๆ
- ข้อมูลที่ส่งไปผ่านหลายขั้นตอน
7 c กับการสื่อสารที่ดี
- Credibility ความน่าเชื่อถือ : สามารถทำให้ผู้รับสารเกิดความเชื่อถือในสารนั้น ๆ
- Content เนื้อหาสาระ : มีสาระให้เกิดความพึงพอใจ เร่งเร้าและชี้แนะให้เกิดการตัดสินใจได้ในลักษณะอย่างไรบ้าง
- Clearly ความชัดเจน : การเลือกใช้คำหรือข้อความที่เข้าใจง่าย ๆ ข้อความไม่คลุมเครือ
- Context ความเหมาะสมกับโอกาส : การเลือกใช้ภาษาและใช้สิ่งที่ส่งสารเหมาะสม
- Channel ช่องทางการส่งสาร : การเลือกวิธีการส่งข่าวสารได้เหมาะสมและรวดเร็วที่สุด
- Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน : การสื่อสารกระทำอย่างต่อเนื่องมีความแน่นอนถูกต้อง
- Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร : การเลือกใช้วิธีการส่งสารซึ่งมั่นใจว่าผู้รับสารจะสามารถรับสารได้ง่ายและสะดวกโดยคำนึงถึงความรู้ เจตคติ อุปนิสัย ทักษะการใช้ภาษา สังคมวัฒนธรรมของผู้รับสารเป็นสำคัญ
คุณธรรมในการสื่อสาร
การเปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรรวมทั้ง รูปภาพ แผนภูมิและการใช้วัตถุต่างๆ
- เป็นกิริยาวาจาที่เรียบร้อยถูกต้องตามคตินิยมของสังคม
วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง
1. ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง
2. พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา และหาแนวทางตอบสนองตามความเหมาะสม
3. พูดคุย พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ
4. หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง
5. ทำตนให้กลมกลืนกับผู้ปกครอง
การสื่อสารที่ดีและมีประสิทธิภาพนับเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้งานการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จ ผู้ที่เป็นครูจะต้องทำความเข้าใจเรื่องการสื่อสารให้กระจ่างชัดเจน ประกอบกับการศึกษาธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครอง พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อที่จะได้ทำการให้ความรู้ให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองได้ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความศรัทธา เชื่อมั่นและมีความอบอุ่นว่าสถานศึกษาจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง บ้านโรงเรียน ชุมชนและสังคมเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเด็กร่วมกัน
คำถามท้ายบท
1. จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
การสื่อสาร คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จาก ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
2. การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
- ทำให้ผู้ปกครองได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่ลูกเรียน
3. รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล ใคร กล่าวอะไร ผ่านโดยช่องทางใด ไปยังใคร ได้ผลอะไร
ทำให้เราได้ทราบรายละเอียดคบถ้วนสมบูรณ์อีกทั้งยังได้ดูการตอบรับของผู้ปกครอง เช่น โรงเรียนได้ส่งจดหมายเรียนเชิญผู้ปกครองทุกท่านให้มาร่วมงานวันแม่ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีในการมาร่วมงาน
4. ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
1. ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้
2. ผู้ปกครองมีความต้องการที่จะเรียนรู้
3. ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุดในสิ่งที่เขาสนใจ
4. การเรียนรู้จะมีความหมายที่สุดก็ต่อเมื่อเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวของผู้ปกครอง
5. การมีอิสระในการเรียนรู้จะทำให้ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุด
5. ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
1. ความพร้อม คือ สภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้
2. ความต้องการ คือ ความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข
3. อารมณ์และการปรับตัว คือ แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
4. การจูงใจ หมายถึง การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้
5. การเสริมแรง คือ การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
นำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการสื่อสารทั้งกับครู ผู้ปกครองเด็ก สถานศึกษา เพื่อสื่อสารความเข้าใจให้ตรงกันกับจุดประสงค์ที่เราตั้งไว้ และเพื่อประสิิทธิภาพในการสื่อสารที่ดี
ประเมิน
ตนเอง: ในส่วนเกมที่เกี่ยวกับเนื้อหาสนุกมาก
เพื่อน: เพื่อนหลายคนก็สนุกสนานกับเกม
อาจารย์: เกมที่อาจารย์นำมาให้เล่นยังให้ประโยชน์ในด้านของการสื่อสาร ทำให้เราให้ข้อเสียและข้อดีของการสื่อสาร อาจารย์สอนได้เข้าใจดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น